จุดเด่น
ความสามารถในการร้องเพลงลูกทุ่ง และหน้าตาที่ออกแนวลูกทุ่ง
|
บุคลิก และอุปนิสัย
โดยส่วนตัวจะเป็นคนเงียบๆ และยิ่งอยู่กับคนที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยก็จะเป็นคนไม่ค่อยกล้าพูด แต่ถ้าสนิทกับใครแล้วก็จะพูดมาก ตลก ส่วนเวลาทำงานก็ไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้เสียสมาธิ
|
อาหารจานโปรด
ข้าวเหนียวส้มตำ (ปลาร้า) ข้าวขาหมู ขนมไทย สลัดผัก (ชอบกินผักมาก)
|
งานอดิเรก
อ่านหนังสือเรียน ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ ดูทีวี ดูหนัง ออกกำลังกาย
|
ประสบการณ์การทำงาน
หลังจากเรียนจบ ม. 6 ที่ร้อยเอ็ด ก็เดินทางขึ้นมากรุงเทพฯ เพื่อเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และทำงานหาเงินไปด้วย เพราะที่บ้านไม่มีกำลังส่งเสียให้เรียน ซึ่งงานแรกที่ได้ทำคือ เป็นพนักงานประจำร้านสะดวกซื้อ ต่อมาก็เป็นพนักงานเสิร์ฟ จนถึงปัจจุบัน ส่วนประสบการณ์ในการร้องเพลงนั้น The Star 3 เป็นการประกวดงานที่2 การประกวดครั้งแรกคือ การประกวดเพลงลูกทุ่ง ซึ่งได้ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย แต่ก็ยังไม่ได้ตำแหน่งอะไร เพราะว่ายังอ่อนประสบการณ์
|
แนวเพลงที่ถนัด
ลูกทุ่ง
|
ศิลปินในดวงใจ
ต่าย อรทัย, ศิริพร อำไพพงษ์, ไมค์ ภิรมย์พร, ก๊อต จักพรรณ์
|
ความสามารถพิเศษ
แต่งกลอน, อ่านทำนองเสนาะ, ร้องลิเก, ร้องหมอลำ, แต่งกลอนหมอลำ
|
คติประจำใจในการทำงาน
พรุ่งนี้ ต้องดีขึ้นกว่า วันนี้
|
อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เข้ามาประกวด The Star
อยากเป็นดาว อยากเป็นนักร้อง อยากเป็นศิลปิน
|
การประกวด The Star ครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ที่คุณเข้ามาประกวด
ครั้งแรก
|
มาถึงที่รับสมัครกี่โมง
4 โมงเช้า
|
เพลงที่คุณเลือกมาแข่งในรอบ 20 คน คือเพลงอะไร ของศิลปินคนไหน และทำไมถึงร้องเพลงนี้
เทพธิดาผ้าซิ่น ของเสรี รุ่งสว่าง โดยก๊อต จักพรรณ์ ที่เลือกเพลงนี้เพราะได้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ชอบคำร้อง ทำนอง ที่เป็นแบบไทยเดิม เนื้อหาน่ารัก น่าฟัง
|
เตรียมตัวใจการแข่งขันครั้งนี้อย่างไรบ้าง
ฟังเพลงบ่อยๆ ร้องเพลงเยอะๆ ฝึกความแม่นยำของประสาทหู ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ฝึกลมหายใจ
|
นอกจากความรู้สึกดีใจแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้เข้ารอบ 20 คน
รู้สึกอยากขอบคุณทุกกำลังใจ และรู้สึกหนักใจเพราะกลัวจะร้องออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
|
สิ่งใดในตัวคุณที่ทำให้คุณชนะใจกรรมการในรอบ 20 คน
อาจเป็นหน้าตา กับเสียงร้อง รวมกับรอยยิ้ม
|
รู้สึกอย่างไรกับการได้รับการ Comment จากกรรมการทั้ง 3 ท่าน
รู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่อยากจะขอบคุณคำ Comment ของคณะกรรมการ ที่ทำให้เราเข้ารอบมาได้ พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นมาได้ก็เพราะ Comment ของกรรมการทั้ง 3 ท่าน
|
ถ้าคุณได้เป็น 1 ใน 8 ของ The Star 3 คุณจะรู้สึกอย่างไร และจะทำอะไรเป็นอันดับแรก
ตื่นเต้น และดีใจอย่างที่สุด และอยากจะขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ ขอบคุณญาติพี่น้อง ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เป็นกำลังใจ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยให้มีวันนี้ขึ้นมาได้
|
เล่าเรื่องที่ตื่นเต้นที่สุดในการประกวด The Star
ในวันสุดท้ายที่เก็บตัวโดยจะมีการร้องเพลงให้กรรมการทั้ง 3 ท่านฟัง เพื่อคัดเหลือ 8 คนสุดท้าย จาก 20 คนในขณะที่กรรมการกำลังจะประกาศผล คนที่เข้ารอบ แล้วมีชื่อตัวเองติด 1 ใน 8 เป็นวินาทีที่ตื่นเต้นที่สึด มีความรู้สึกว่าชีวิตเรากำลังจะเปลี่ยนต่อจากนี้ไป
|
เรื่องอะไรที่ประทับใจคุณมากที่สุดในการประกวด The Star
ในช่วงที่เก็บตัวเข้ารอบ 20 คนได้เรียน กิน นอนด้วยกัน ทำให้มีเพื่อนเพิ่มมาอีกหลายคน ร่วมความฝันเดียวกัน มีความห่วงใยให้แก่กัน จนเกิดเป็นความประทับใจ จนรู้สึกว่าใจหายเมื่อต้องจากเพื่อนๆทุกคน
|
เล่าเรื่องฮาๆ ที่ฮาที่สุดที่เกิดในการประกวดครั้งนี้
ในการเก็บตัว 20 คน มีการไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เรียนการแสดง โดยการเรียนการแสดง ครูเต้ยจะเป็นคนสอน แล้วจะมีโจทย์มาให้ว่า ให้เรียกเพื่อนมาหาโดยใช้ความว่า มานี่ โดยใช้วิธีใดก็ได้ ก็เลยใช้วิธีชี้นิ่ว แล้วก็ทำตาโดต ใช้น้ำเสียงดุ เรียกให้เพื่อนมาหา ก็เลยเป็นที่ล้อกันในหมู่เพื่อนที่เข้ารอบ 20 คน
|
ถ้าหากย้อนอดีตได้ คุณอยากจะแก้ไขอะไรในการประกวดครั้งนี้
อยากจะทำสิ่งที่ กรรมการ 3 ท่านแนะนำให้ดีที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้เรามีพัฒนาการที่ดีขึ้นในการร้องเพลง
|
ถ้าคุณตกรอบ จะทำอย่างไร
ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว ได้รับคำชมจากคณะกรรมการ ก็คงอยากจะขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ และจะสู้เพื่อความฝันของตนต่อไป และถ้ามีโอกาสก็อยากมาสมัครอีก
|
ถ้าคุณได้เป็น The Star สิ่งแรกที่จะทำคืออะไร
อยากบอกทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ที่คอยช่วยเหลือ จนทำให้มีวันนี้ อยากบอกว่าขอบคุณมากๆ ขอบคุณจากใจจริง ที่ทำให้เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
|
สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากการประกวดครั้งนี้คือ
ทำให้มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รู้จักความรับผิดชอบในการทำงาน ในการตรงต่อเวลา การทำงานร่วมกับคนอื่น รู้จักการเข้าสังคม รู้จักพบปะผู้คน รู้จักการวางตัวในสังคม มีความเชื่อมั่นในตัวเองมากยิ่งขึ้น กล้าแสดงออกมากขึ้น รู้จักพูด คิด หรือทำ ให้ถูกกาละเทศะ
|