จุดเด่น
คิดว่าน่าจะเป็นดวงตา เพราะว่าหลายคนบอกว่า ลูกตาล ตาหวานมาก และชื่อลูกตาล ซึ่งเป็นชื่อที่คุณย่าตั้งให้ ก็เพราะว่า ตาหวานเหมือนลูกตาลเชื่อมค่ะ และจุดเด่นอีกอย่างก็คือ ความรับผิดชอบ เพราะลูกตาลรับผิดชอบต่องานทุกชิ้น เป็นอย่างมาก
|
บุคลิก และอุปนิสัย
เป็นคนสดใสร่าเริง พูดจาตรงไปตรงมา และพูดเยอะ (อันนี้เพื่อนๆบอก) แต่จริงจังกับเรื่องงาน การเรียน และเป็นคนที่จริงจัง จนถึงขั้นซีเรียสถ้างานที่ทำ ไม่เป็นดั่งที่ใจคิด
|
อาหารจานโปรด
ต้มยำเนื้อ ฝีมือคุณพ่อเท่านั้น |
งานอดิเรก
ชอบมากที่สุดคืออ่านหนังสือทุกประเภท นอกนั้นก็ วาดภาพ ระบายสี เล่นดนตรี
|
ประสบการณ์การทำงาน
ส่วนใหญ่จะทุ่มเวลาให้กับการเรียนมากกว่า เลยไม่ได้ทำงานค่ะ
|
แนวเพลงที่ถนัด
ป๊อป, ร็อค, ป๊อปร็อค
|
ศิลปินในดวงใจ
พี่ใหม่ เจิรญปุระ ชอบเสียงของพี่เขา เพราะว่าแหบเสน่ห์ และยิ่งมีเสน่ห์มากเวลาขึ้นเวทีแสดงคอนเสิร์ต
|
ความสามารถพิเศษ
ร้องเพลง ดนตรีไทย เช่น ซออู้
|
คติประจำใจในการทำงาน
ตั้งใจทำให้ดีที่สุด
|
อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เข้ามาประกวด The Star
ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว และอยากจะเข้ามาทดสอบความสามารถด้านการร้องเพลงว่าตนเองจะมีความสามารถพอที่จะผ่านเข้าถึงรอบไหน
|
การประกวด The Star ครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ที่คุณเข้ามาประกวด
ครั้งแรก ค่ะ
|
มาถึงที่รับสมัครกี่โมง
9 โมงเช้า
|
เพลงที่คุณเลือกมาแข่งในรอบ 20 คน คือเพลงอะไร ของศิลปินคนไหน และทำไมถึงร้องเพลงนี้
เพลงพรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกันเวอร์ชั่นของเอ็นโดรฟิน เพราะเนื้อหาในเพลงเหมาะกับวัยของตาล เพราะว่าเป็นวัยที่กำลังเรียนอยู่ เลยอยากจะถ่ายทอดอารมณ์เพลงให้เพื่อนๆได้ฟังกัน และอยากจะบอกว่า ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นแค่เพื่อน แต่ว่าในอนาคตอาจเป็นได้มากกว่านั้น
|
เตรียมตัวใจการแข่งขันครั้งนี้อย่างไรบ้าง
ในรอบแรกๆ เตรียมตัวน้อยมาก เพราะเพิ่งได้รู้ข่าวเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนอายุของผู้สมัครว่ารับตั้งแต่ 15 ปี ซึ่งเปลี่ยนจากเดิมที่รับตั้งแต่อายุ 17 ปี แต่ในรอบ 20 คน เตรียมตัวค่อนข้างดี พยายามปรับปรุงส่วนที่ไม่ดี โดยรับคำ Comment ของครูแหม่ม กับครูจ้อน (ครูผู้ฝึกสอนร้องเพลงของ The Star3) มาปรับปรุงจุดบกพร่อง
|
นอกจากความรู้สึกดีใจแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้เข้ารอบ 20 คน
รู้สึกภูมิใจค่ะ เพราะว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านการคัดเลือกจากผู้เข้าประกวดเป็น หมื่นๆคน และก็ตื่นเต้นที่จะได้มาร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆทั้ง 20 คนด้วยคะ
|
สิ่งใดในตัวคุณที่ทำให้คุณชนะใจกรรมการในรอบ 20 คน
เรื่องการพัฒนาของตัวเอง เพราะว่าตั้งแต่เข้าค่ายมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
|
รู้สึกอย่างไรกับการได้รับการ Comment จากกรรมการทั้ง 3 ท่าน
คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราได้มีอากาสมาฟังจุดดี จุดบกพร่อง ในเรื่องต่างๆ เพราะว่าคำ Comment ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องการร้องเพลง แต่รวมไปถึงการแต่งกาย บุคคลิกภาพ และอื่นๆด้วยอีกมากมายด้วย
|
ถ้าคุณได้เป็น 1 ใน 8 ของ The Star 3 คุณจะรู้สึกอย่างไร และจะทำอะไรเป็นอันดับแรก
ดีใจ และภูมิใจ และสิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรกคือ บอกคุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัวค่ะ เพราะว่าอยากให้ครอบครัวมีความสุขไปด้วย
|
เล่าเรื่องที่ตื่นเต้นที่สุดในการประกวด The Star
ได้เรียน Acting เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ทำ และทุกครั้งที่เข้าเรียก ก็มีอะไรแปลกใหม่ให้ทำเสมอ จนต้องคอยลุ้นว่า จะเจออะไรบ้าง
|
เรื่องอะไรที่ประทับใจคุณมากที่สุดในการประกวด The Star
เรื่องเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เข้ารอบ เป็นเรื่องที่ประทับใจมากที่สุด เพราะว่าพี่ๆทุกคนช่วยดูแลน้องเล็ก ไม่มีการแบ่งแยก และคิดว่านี่เป็นการแข่งขันทำให้มีมิตรภาพมากมายเกิดขึ้นด้วย
|
เล่าเรื่องฮาๆ ที่ฮาที่สุดที่เกิดในการประกวดครั้งนี้
เป็นการที่หลายๆคนพยายามจะหามุขมาพูดให้ตาลขำ แต่มันกลับทำให้งงมากกว่า แล้วค่อยขำ เพราะอย่างนี้เขาถึงเรียกว่า มุขแป้ก และตำแหน่งมุขแป้กนี่ต้องยกให้ พี่บี้ ค่ะ
|
ถ้าหากย้อนอดีตได้ คุณอยากจะแก้ไขอะไรในการประกวดครั้งนี้
ไม่อยากจะแก้ไขอะไร เพราะคิดว่า เราทำเต็มที่ และเป็นตัวของตัวเองที่สุดแล้ว
|
ถ้าคุณตกรอบ จะทำอย่างไร
จะตั้งใจเรียนหนังสืออย่างเดียว เพื่อเตรียมพร้อมในการสอบ Entrance ถ้าจะมาประกวดอีกคงเป็นตอนอยู่ มหา'ลัยปี 1 ค่ะ
|
ถ้าคุณได้เป็น The Star สิ่งแรกที่จะทำคืออะไร
ขอบคุณทุกคนที่ส่งมอบกำลังใจ พร้อมตำแหน่ง The Star มาให้คะ และจะตั้งใจทำงานทุกชิ้นที่ได้รับมอบหมาย
|
สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากการประกวดครั้งนี้คือ
ความเข้มแข็ง ความอดทน การอยู่ร่วมกัน ความสามัคคี เพราะถ้าเรามีความเข้มแข็ง อดทนเพียงพอ ก็จะฟัง Comment ของคณะกรรมการแล้วนำมาปรับให้เกิดประโยชน์กับตัวเราได้ ส่าวนการอยู่ร่วมกัน และความสามัคคี ได้มาจากการทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ และพี่ๆ ค่ะ
|